Thursday 21 April 2011

นำ้มันปลา (Omega 3)


 น้ำมันปลา อุดมไปด้วยไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายที่ชื่อว่า Omega-3 ซึ่งมีหลักๆอยู่ 3 ตัวคือ ALA, EPA และ DHA

ซึ่งตัว Omega-3 นอกจากจะพบในน้ำมันปลาแล้ว ยังพบได้ในน้ำมันพืชอีกหลายชนิด เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันเมล็ดฝ้าย

แต่น่าเสียดายที่น้ำมันจากพืชที่กล่าวมานั้น นอกจากจะมี Omega-3 อยู่ แต่ปริมาณก้มีน้อยกว่า Omega-6 ซึ่งเป็นไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หากได้รับมากไป ก็อาจทำให้เกิดความดันสูงหรือโรคหัวใจได้ ทำให้น้ำมันพืชที่ดูท่าจะปลอดภัยมีเพียง น้ำมันมะกอกและน้ำมันคาโนลา เท่านั้น

ประโยชน์ของน้ำมันปลา
การศึกษาถึงประโยชน์ของน้ำมันปลามีมาหลายปีแล้ว เราจะมาดูกันว่า จริงๆแล้วมันช่วยอะไรเราได้บ้าง

1. ช่วยลดไขมัน Triglyceride (TG) ในเลือด
มีการทดลองที่ชัดเจนว่า การกิน Omega-3 ในขนาด 2 กรัม/วัน ก็ช่วยส่งผลลด TG ได้ และจะยิ่งส่งผลดี เมื่อได้รับในขนาดมากขึ้น เช่น การได้รับในขนาด 4 กรัม/วัน ช่วยลด TG ได้ 25-40 %

2. ลดการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน/heart attack ในคนที่เคยมีประวัติมาก่อน (Secondary cardiovascular disease prevention)
พบว่า ในผู้ป่วยที่มีประวัติเคยมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน การกินปลาในขนาด 200-400 กรัม/สัปดาห์ (เทียบเท่ากับได้รับ Omega-3 500-800 มก./สัปดาห์) ช่วยลดการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และลดอัตราการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นได้
แต่ทั้งนี้คนไข้ต้องใช้ยารักษาโรคหัวใจควบคู่ไปด้วยถึงจะได้ผล (น้ำมันปลา ช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรักษาให้มากขึ้น)

นอกจากนี้ทางสมาคมโรคหัวใจของ USA ได้แนะนำให้คนที่เป็นโรคหัวใจควรจะได้รับ EPA + DHA วันละ 1 กรัม ไม่ว่าจะมาจากการกินปลาหรือจะมาจากอาหารเสริมก็ตาม

3. อาการความดันโลหิตสูง
การกิน Omega-3 ช่วยลดความดันได้ 2-5 ม.ม.ปรอท และอาจลดได้มากกว่านี้ในกรณีที่ความดันสูงมากๆ

แต่ทั้งนี้ การกิน Omega-3 อาจต้องกินในขนาดสูงคือ 3 กรัม/วัน ซึ่ง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้สูง

Note การควบคุมความดันด้วยวิธีอื่น สามารถเห็นผลได้ดีกว่ามาก เช่น การจำกัดเกลือ, การลดน้ำหนัก, การออกกำลังกายหรือการใช้ยา

4. การป้องกันโรคหัวใจ ในกรณีที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน (Primary cardiovascular disease prevention)
มีบางรายงานว่าในคนที่กินปลาเป็นประจำ จะมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่าคนที่ไม่ได้กิน แต่บางรายงานก็ขัดแย้งกัน

จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การป้องกันการเกิดโรคหัวใจนี้ จะป้องกันได้เฉพาะในกลุ่มคนที่มีแนวโน้ม / ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจหรือไม่

5. ข้ออักเสบ Rheumatoid
การใช้น้ำมันปลาจะช่วยเสริมฤทธิ์แก้ปวด เมื่อใช้ควบคู่กับยาแก้ปวดได้ โดยน้ำมันปลาจะช่วยลดสารสื่อที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดได้

No comments:

Post a Comment